เวลาทำการ :
วันจันทร์ - วันศุกร์
เวลา 09.00 - 18.00 น.
แชร์หน้านี้

 10 ที่เที่ยว "คิ ว ชู - ฟุ กุ โอ กะ" 

10 ที่เที่ยว “คิวชู – ฟุกุโอกะ”

เกาะคิวชู ชื่อนี้อาจจะไม่คุ้นหูกันมากนัก แต่ถ้าเอ่ยชื่อ ฟุกุโอกะ เบปปุ คุรุมะ ซากะ ก็คงจะร้องอ๋อไปตาม ๆ กัน ที่นี่เป็น 1 ใน 4 เกาะหลักของประเทศญี่ปุ่นมีสถานที่ท่องเที่ยว แหล่งชอปปิ้ง ความสวยงามของธรรมชาติ ไม่แพ้ที่อื่นเช่นกัน แต่จะมีที่ไหนบ้าง แอดคัดที่เด็ด ๆ มาแนะนำเพื่อน ๆ กับ 10 ที่เที่ยวแห่งเกาะคิวชู ที่ห้ามพลาด

1.ช้อปปิ้งย่านเทนจิน

เทนจินคือแหล่งชอปปิ้งชื่อดัง ใจกลางเมืองฟูกุโอกะ เป็นที่ตั้งของบรรดาห้างสรรพสินค้าชั้นนำ อย่าง Parco, Bic camera, Iwataya Honkan, ร้านขายยา ร้านร้อยเยน หรือจะเป็นสินค้าที่นิยมสำหรับคนไทยก็มีมากมาย เช่น Onisuka Tiger, Uniqlo, Muji, comme de grason แหล่งชอปปิ้งมีทั้งใต้ดิน และบนดิน สำหรับขาชอปหามาที่นี่ เดินทั้งวันก็ไม่เบื่อครับ

 

2.Canel city Hagata

ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในย่านฮากาตะ เมืองฟุกุโอกะ มีร้านค้ามากกมายกว่า 250 ร้าน มีตั้งแต่ร้านที่เป็นแบรนด์ของญี่ปุ่น และแบรนด์ต่างประเทศที่นำเข้ามา แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นห้างสรรสินค้า แต่ราคาก็มาตรฐานเท่ากับที่อื่น ร้านอาหารก็มีให้เลือกมากมาย ตั้งแต่ปิ้งย่างไสตร์ญี่ปุ่น หรือจะเป็นอาหารแบบทางตะวันตก ที่พิเศษเพิ่มเติมก็คือที่ชั้น 5 จะเป็นศูนย์รวมราเม็งที่จัดว่าเด็ด เอามัดรวมกันไว้ แล้วตั้งชื่อเก๋ ๆ ว่า “ราเมงสเตเดี้ยม” ความเฟี้ยวของห้างยังไม่หมดแค่นี้ บริเวณกลางห้างยังขุดทำให้เป็นทางผ่านของคลอง เป็นที่มาของชื่อห้างนั่นเอง เรียกได้ว่าชิม ชอป แชะ ครบจบได้ที่นี่เลยครับ

3.Food stall (Yatai)

อาหารริมทางหรือ “ยาไต” ในภาษาญี่ปุ่น คือมนต์เสน่ห์ที่แฝงไปด้วยวัฒนธรรมของท้องถิ่นซึ่งปัจจุบันยังคงหลงเหลืออยู่เพียงทีเดียวคือในตัวเมืองฟุกุโอกะ ทุกครั้งที่แอดได้มีโอกาสไปที่ฟุกุ มื้อเย็นแอดจะไปฝากท้องที่นี่เป็นประจำ ลักษณะของร้านจะเป็นร้านรถเข็น มีที่นั่งประมาณ 6-10 ที่ บรรยากาศเป็นกันเองระหว่างเจ้าของร้านและผู้มาเยือน อาหารที่ร้านริมทาง(ยาไต) จะขายแตกต่างกันไป มีทั้งราเมง โอเด้ง ไก่ย่าง ฯลฯ เมนูเด็ดที่แอดชื่นชอบมาก ๆ ก็คงหนีไม่พ้นกับฮากาตะราเมง ราเมงขึ้นชื่อของเมืองฟุกุโอกะ แล้วจะหาร้านยาไตเหล่านี้ได้ที่ไหน ไม่ยากเลยครับร้านเหล่านี้จะกระจายอยู่ทั่วไปในเขตตัวเมืองฟุกุโอกะ มีประมาณ 150 ร้าน เปิดขายกันช่วงเย็น ไปจนถึงดึก เดินชอปปิ้งเสร็จก็ลองแวะไปฝากท้องที่ร้านยาไตกันนะครั

4.ยูฟุอิน

หมู่บ้านเล็ก ๆ ใจกลางหุบเขา ในอดีตไม่เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว แต่หลังจากมีการทำโครงการ OVOP (One village one product) ชูผลิตภัณฑ์ และจุดเด่นของหมู่บ้านแห่งนี้ ก็ทำให้นักท่องเที่ยวหันมาสนใจ และมากันมากขึ้น วันที่แอดได้มาเยือนหมู่บ้านแห่งนี้ ก็ตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบเลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่ตัวหมู่บ้านที่มีตกแต่งผสมผสานทั้งแบบญี่ปุ่น และตะวันตก ร้านขายของมีทั้งของที่ระลึก ขนม และผลัตภัณฑ์ท้องถิ่น ไม่ว่าจะเดินชอปปิ้ง หรือจะถ่ายรูปไว้อวดบนเฟสบุค ก็ตอบโจทย์ได้ครบ โดยส่วนตัวแอดชอบนั่งที่ร้านคาเฟ่ ซึ่งมีการตกแต่งน่ารัก ๆ ไสตร์ญี่ปุ่น จิบกาแฟฟังเพลงเบา เหมือนได้ทำให้เวลาชีวิตช้าลง ชมหมู่บ้าน และผู้คน ฟินจนคนที่เมืองไทยต้องอิจฉากันเลยทีเดียว แอบเสริมนิดนึง OTOP ของบ้านเราก็ได้แนวคิดมาจากที่นี่แหละครับ

5.Marinoa City outlet

เอ้าเลทริมอ่าวฟุกุโอกะ แม้จะเป็นเกาะทางตอนใต้ แต่ที่แอดสังเกตุ แหล่งชอปปิ้งของที่นี่ มีขนาดใหญ่ ไม่แพ้เมืองใหญ่อย่างโตเกียว หรือโอซาก้าเลย หลังจากเดินสำรวจเอ้าเลทแห่งนี้ ก็พบว่ามีแบรนด์ให้เลือกหลากหลายมาย ทั้งจากต่างประเทศเช่น Coach, Gap, Beams, Wacoal, Triumph แต่ที่ชอบโดยส่วนตัวก็เห็นจะเป็นแบรนด์ของญี่ปุ่น บอกตามตรงชื่อแต่ชื่อไม่คุ้นหูเลย แต่การออกแบบตัวสินค้ามีความโดดเด่นมาก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับ ของใช้ เมื่อเดินผ่านเป็นต้องได้แวะเข้าไปชมใกล้ ๆ ทุกที ที่นี่ไม่ได้มีแค่เอ้าเลท ยังมีโซนที่เป็นสวนสนุก ใครอยากชมวิว ก็สามารถไปนั่ง Ferris Wheel ราคาตั๋ว 500 เยน 1 รอบ ชมวิวกันจุใจเลยทีเดียว

6.ศาลเจ้ายูโทคุ อินาริ แห่งเมืองซางะ หลังจากที่แอดได้ดูซีรี่ “ซางะ ฉันจะคิดถึงเธอ”

ได้เห็นถึงความงดงามของเมืองผ่านทางซีรี่ย์ จึงเกิดแรงบันดาลใจให้ดั้นด้นมาตามรอยซีรี่กันซะหน่อย หนึ่งในสถานที่ถ่ายทำ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเกาะคิวชู คือศาลเจ้ายูโทคุ ศาลเจ้าที่นับถือ บูชาเทพอินาริ เทพเจ้าแห่งการเพาะปลูกนั่งเอง ศาลเจ้าแห่งเทพอินาริ ในญี่ปุ่นจะมีอยุ่หลายที่ด้วยกัน แต่ที่นี่ถือว่าเป็นศาลเจ้าอินาริ ที่ความใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ ลักษณะพิเศษของศาลเจ้าคือ บริเวณอาคารที่ใช้ขอพรจะตั้งอยู่บนเขา การเดินขึ้นจะมีบันไดสีแดงทอดยาวจากด้านล่างสู่ด้านบน เมื่อขึ้นมาถึงด้านบนแล้วสามารถที่จะชมวิวทิวทัศน์ อันสวยงามของเมืองซากะได้อีกด้วย ด้านข้างของศาลเจ้า ยังมีตลาดเล็ก ๆ ขายของพื้นเมือง และร้านอาหาร ร้านขนมไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว แค่มาเที่ยวหากจะดื่มให้เต็มที่กับบรรยากาศ ก็ต้องใช้เวลาเป็นครึ่งวันเลยครับ

7.โทสุ เอ้าเลท

ด้วยความที่แอดมินเป็นขาชอปตัวยง ไปแต่ละที่จะชอบเสาะแสวงหาของดี มีคุณภาพ และราคาสมเหตุสมผล ครั้งที่ไปเยือนเมืองซากะ ก็ได้มีโอกาศแวะไปละลายทรัพย์ที่โทสุ พรีเมี่ยม เอ้าเลท ที่นี่มีความใหญ่อลังการไม่แพ้ เอ้าเลทที่ฟุกุโอกะเลย มีร้านค้ามากกว่า 150 ร้าน มีให้เลือกชอปมากมาย แถมยังมีโปรโมชั่นส่วนลดต่าง ๆ อีกมากมาย การรับโปรโมชั่น ก็แค่เพียงแสกนคิวอาร์โค๊ด ก็จะได้รีบ E- coupon เข้าร้านไหนก็แสดงให้ทางร้านดู เพียงเท่านี้เราก็จะได้ส่วนลดจากทางร้าน สินค้ามีครบทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และเด็กเล็ก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องสำอางค์ อย่าง Coach, Armani, Timberland, Burbery, Gap, Puma, Levi’s, Nike, New Balance, Samsonite และอื่นอีกมากมาย เรียกได้ว่าเงินเยนในกระเป๋าจะร้อนขึ้นมาทันทีเลยครับ

8.วัดนาริตะซัง

แห่งเมืองคุรุเมะ ชื่อวัดอาจจะดูคุ้น ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เคยมาเที่ยวโตเกียว จริง ๆ แล้วที่นี่คือวัดสาขาของวัดนาริตะซัง ที่นาริตะนั่นแหละครับ เมืองคุรุเมะได้มีการอัญเชิญจากพระประธานวัดนาริตะซัง มาประดิษฐ์สถานที่นี่ และได้มีการสร้างองค์เจ้าแม่กวนอิมมีความสูงถึง 66 เมตร นอกจากนี้ยังมีการสร้างเจดีย์พุทธคยา จำลองจากประเทศอินเดียมาไว้ที่นี่อีกด้วย วัดนี้ถือเป็นวัดที่สำคัญอีกหนึ่งของเกาะคิวชู ในช่วงเทศกาลสำคัญผู้คนจะหลั่งไหลมาหยั่งที่นี่ เพื่อมาขอพร ขอความเป็นศิริมงคลให้กับตัวเองและครอบครัว การเดินทางก็ถือว่าสะดวกมาก ๆ จากตัวเมืองฟุกุโอกะมาแค่เพียง 30 นาทีเท่านั้น เป็นอีกหนึ่งที่ครับ ที่แอดมาฟุกุโอกะจะต้องแวะไปนมัสการขอพรให้การเดินทางปลอดภัย สะดวกราบรื่น

9.ศาลเจ้าดาไซฟุ

ที่นี่ไม่ได้มีแค่เพียงศาสนสถาน แต่ยังมีถนนซันโดที่เป็นแหล่งรวมของฝากขึ้นชื่อ และขนมนานาชนิดอีกด้วยก่อนจะไปชอปปิ้งเรามารู้จักกับศาลเจ้าชื่อดังกันซักนิด ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อบูชาท่านซุกาวาระ โนะ มิจิซาเนะ นักวิชาการและนักการเมืองชื่อดังในยุคเฮอันว่ากันว่าน้อง ๆ มัธยมปลายก่อนจะสอบเข้ามหาลัยมักจะมาขอพรท่านที่นี่ ภายในศาลเจ้ามีความสงบและร่มรื่นมาก สถาปัตยกรรมก็มีความสวยงามเดินเก็บบรรยากาศครบแล้ว ก็ออกมาจับจ่ายซื้อของฝากกันที่ถนนซันโด ของที่ไม่ควรพลาดในการชิมก็คือ ขนมอุเมะกาเอโมจิ ลักษณะเหมือนขนมโมจิ ข้างในจะเป็นไส้ถั่วแดง อร่อยแบบไม่อยากแบ่งใครกันเลยทีเดียว

10.บ่อทะเลเดือด บ่อเลือด แห่งเมืองเบปปุ

เมืองริมชายฝั่งทะเลของเกาะคิวชู ที่เต็มไปด้วยบ่อนำพุร้อน ที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อราว 1,200 ปีก่อน และด้วยความที่ได้รับอิทธิพลจากแร่ธาตุภูเขาไฟ ทำให้น้ำพุร้อนที่นี่มีสีสันที่แตกต่างกัน และเป็นที่โดดเด่นถึง 8 บ่อด้วยกัน แต่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดก็เห็นจะเป็น บ่อทะเลเดือด และบ่อเลือด มาเริ่มกันที่บ่อทะเลเดือด แวบแรกที่แอดได้เห็นยังนึกว่ามีใครจงใจทำให้สีน้ำกลายเป็นสีฟ้าหรือปล่าว เนื่องจากสีของน้ำ ฟ้าจนนึกว่าเป็นน้ำพั๊นช์ที่เคยดื่มในงานจัดเลี้ยง สืบสาวราวเรื่องก็ได้ความว่าในบ่อมีแร่ธาตุโคบอลต์เป็นจำนวนมากนั่งเอง บ่อเลือด จะอยู่ห่างจากบ่อทะเลเดือดมาไม่มากนัก สีสันของน้ำเป็นสีแดงสด และเป็นที่มาของชื่อบ่อนั่นเอง แร่ธาตุในน้ำก็จะเป็นแร่สนิมจึงทำให้น้ำเป็นสีแดง ส่วนอุณภูมิในบ่อจะสูงถึง 98 องศา ใครอย่าได้คิดลงไปแช่เชียว ขนาดไข่ไก่ยังสุก ถ้าคนลงไปคงได้ไข่ยางมะตูมเป็นแน่แท้

 

สนใจเที่ยวญี่ปุ่น 2020
Click ? https://xlworldtour.com/japan/

ใบอนุญาตเลขที่ 11/09600
www.xlworldtour.com