15 พิกัด ชมใบไม้เปลี่ยนสี ยอดนิยมที่ญี่ปุ่น 2024
วันนี้พี่หมีจะขอมาแนะนำ 15 พิกัด ในการชมใบไม้เปลี่ยนสีทั่วทั้งประเทศให้ได้เตรียมตัวไปเชยชมกันค่ะ โดยทั่วไปแล้ว… เวลาที่ดีที่สุดในการชมใบไม้เปลี่ยนสี มักจะอยู่ในช่วงต้นของฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) ซึ่งเป็นช่วงที่มีอุณหภูมิค่อย ๆ ลดลงต่ำ ต่อมาเมื่อมีอุณหภูมิสูงจากภาวะโลกร้อน ทำให้ในปัจจุบันนี้ความร้อนอบอ้าวอย่างรุนแรงได้ทวีคูณอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งเดือนกันยายน ดังนั้น สถานะใบไม้เปลี่ยนสีในปัจจุบัน จึงเปลี่ยนสีช้ากว่าปกติทั่วประเทศ และหากอุณหภูมิยังสูงต่อเนื่องไปจนถึงเดือนตุลาคม คาดว่าฤดูใบไม้ร่วงก็จะล่าช้าออกไปอีก อย่างไรก็ตาม โอกาสที่อุณหภูมิลดลงอย่างกะทันหันหลังฤดูร้อน ก็อาจทำให้ใบไม้เปลี่ยนสีได้ในพริบตาได้เช่นกัน ดังนั้นตรวจสอบสภาพอากาศให้ดีนะ ทุกคน
1. อุโมงค์ใบเมเปิ้ล โมมิจิ ไคโร もみじ回廊
เป็นอีกหนึ่งจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีติดอันดับท็อปของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ใบเมเปิ้ลสีแดงส้มร่วงหล่นบนคลองน้ำโอบล้อมด้วยต้นเมเปิ้ลตลอดทางจนเหมือนกับอุโมงค์ที่เต็มไปด้วยใบเมเปิ้ลสุดตระการตาและยังได้เห็นวิวทิวทัศน์ของฟูจิซังไปพร้อมกับทะเลสาบคาวากุจิโกะยาวสุดลูกตา ภาพแบบนี้มีให้ชมแค่เฉพาะในเดือนพฤศจิกายนเท่านั้น ต้อนรับการรับชมความงดงามนี้ด้วยการตกแต่งไฟประดับในช่วงกลางคืนกับเทศกาลออกร้านค้าขายอาหารเครื่องดื่มและสินค้าที่ระลึกต่างๆ ให้เลือกช็อปกันอีกด้วย เรียกได้ว่าคุ้มค่าสุดตระการตาที่ต้องมาชมให้ได้สักครั้งในชีวิตเลยล่ะ
💸ค่าบริการ : ฟรี ไม่มีค่าเข้าชม
⏱️เวลาให้บริการ : 9.00 – 19.00 (ช่วงเวลาเปิดไฟประดับ ตั้งแต่พระอาทิตย์ตกดิน – 22.00)
🗺️ที่ตั้ง : คาวากุจิโกะ, จังหวัดยามานาชิ
🚅แนะนำการเดินทาง : นั่งรถบัส Kawaguchiko Sightseeing Bus “Red-Line” จากสถานี Kawaguchiko ลงที่ป้ายหมายเลข 17
2. หมู่บ้านโอชิโนะฮักไก 忍野八海
“หมู่บ้านโอชิโนะฮักไก” หรืออีกชื่อที่คนไทยเรียกว่า หมู่บ้านน้ำใส สถานที่ติดท็อปฮิตตลอดกาลที่ใครก็อยากจะเยือนให้ได้สักครั้ง เป็นหมู่บ้านที่ได้รับเลือกให้เป็นอนุสรณ์สถานและยังได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกทางวัฒนธรรมอีกด้วย มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าถ้าได้ดื่มแล้วจะมีอายุที่ยืนยาวปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ จึงถือเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่ครบทุกบรรยากาศในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ได้เห็นทั้งฟูจิซังรายล้อมไปด้วยวิวทะเลสาบกลางหมู่บ้าน โอบล้อมด้วยใบไม้ที่กำลังเปลี่ยนสี ต้องบอกว่าพลาดไม่ได้จริงๆ
💸ค่าบริการ : ฟรี ไม่มีค่าเข้าชมหมู่บ้าน
⏱️เวลาให้บริการ : 9.00 – 17.00
🗺️ที่ตั้ง : ใกล้ทะเลสาป Kawaguchiko จังหวัดยามานาชิ
🚅แนะนำการเดินทาง : รถไฟ JR จากสถานี Shinjuku ไปลงที่สถานี Otsuki แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย Fujikyu Railway ไปลงที่สถานี Kawaguchiko จากนั้นก็นั่งรถบัสเส้นที่วิ่งไปทางทะเลสาบ Yamanaka แล้วเดินอีก 5 นาที
3. สวนเมจิ จิงกุ ไกเอน 明治神宮御苑
“ถนนแปะก๊วย” สีเหลืองทองอร่ามใจกลางเมืองตลอดสองข้างทางยาว 300 เมตร เรียงรายด้วยต้นแปะก๊วยกว่า 146 ต้น ไปตามถนนไกเอ็น พวกใบแปะก๊วยที่ร่วงหล่นตามพื้นราวกับถูกปูไว้พรมสีทองตัดกับท้องฟ้าสีคราม ยิ่งทำให้สัมผัสได้ถึงสีสันอันงดงามราวกับความฝันกันเลยทีเดียว ควรค่าแก่การถ่ายรูปเก็บบันทึกไว้เป็นความทรงจำดีๆ เป็นที่สุด และในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคมยังมีการจัดเทศกาลออกร้านขายอาหารและของที่ระลึกน่ารักๆ อีกด้วย เพื่อความครื้นเครงในการรับชมใบแปะก๊วยทองตลอดสาย จึงไม่แปลกเลยที่นักท่องเที่ยวจะติดดาวไว้เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่ต้องไปให้ได้เลย
💸ค่าบริการ : ไม่มีค่าเข้าชม
⏱️เวลาให้บริการ : ตลอด 24 ชั่วโมง
🗺️ที่ตั้ง : มินาโตะ, โตเกียว
🚅แนะนำการเดินทาง : รถไฟใต้ดินจากสถานี Tokyo สาย Marunouchi Line มาลงที่สถานี Akasaka-mitsuke จากนั้นขึ้นรถไฟ Tokyo Metro Ginza Line ใช้เวลาประมาณ 3 นาที มาลงที่สถานี Aoyama-itchome หรือสถานี Gaien-mae แล้วเดินประมาณ 5 นาที
4. หมู่บ้านชิราคาวาโกะ 白川郷
หมู่บ้านเก่าแก่ที่ได้รับการขนานนามว่า “หมู่บ้าน 4 ฤดู” เพราะไม่ว่าจะมาเยือนช่วงไหนก็จะพบกับความงดงามอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแต่ละฤดูที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี หมู่บ้านจะถูกรายล้อมไปด้วยใบไม้สีแดงส้มอยู่ท่ามกลางหุบเขา อาคารบ้านเรือนทรงโบราณเก่าแก่สร้างด้วยภูมิปัญญาของคนในหมู่บ้านในอดีตที่เรียกว่า “กัสโชซูคุริ” แปลว่า ไหว้ ลักษณะของหลังคาบ้านจึงคล้ายกับสองมือพนมเข้าหากันนั่นเอง ยิ่งทำให้รู้สึกเหมือนหลุดไปอยู่ในเทพนิยายเลย ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่ต้องมาเห็นให้ได้ด้วยตาตัวเองเท่านั้น
💸ค่าบริการ : ฟรี ไม่มีค่าเข้าชมหมู่บ้าน
⏱️เวลาให้บริการ : เข้าชมได้ตลอด 24 ชั่วโมง
🗺️ที่ตั้ง : อำเภอโอโนะ, จังหวัดกิฟุ
🚅แนะนำการเดินทาง : รถไฟ JR Nagoya นั่งรถไฟสาย JR Hida Wideview ไปจนถึงสถานี JR Takayama จากนั้นนั่งรถ Nohi Bus ที่หน้าสถานี JR Takayama เพื่อไปยังหน้าหมู่บ้านชิราคาวาโกะ
5. ปราสาทโอซาก้า 大坂城
“ปราสาทโอซาก้า” หนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ โอบล้อมด้วยสวนสาธารณะขนาดใหญ่และพิพิธภัณฑ์ที่เต็มไปด้วยหลักฐานทางประวัติศาสตร์กว่า 10,000 ชิ้น และในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่สำคัญของการรับชมใบไม้เปลี่ยนสีเลยก็ว่าได้ ด้วยตัวปราสาท 8 ชั้นจะถูกตัดด้วยสีของใบไม้สีเหลืองส้มแดงจากต้นเมเปิ้ลและสีเหลืองทองจากต้นแปะก๊วยภายในสวน ให้ความรู้สึกถึงความอลังการตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็น จึงทำให้เป็นจุดชมวิวอันดับต้นๆ ของโอซาก้าที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างมาก
💸ค่าบริการ : ค่าเข้าชมปราสาท 600 เยน ถ้าเดินชมรอบๆ ปราสาทไม่มีค่าบริการ
⏱️เวลาให้บริการ : ตึกหลักของปราสาทโอซาก้าเปิด 9:00 ถึง 17:00 (เข้าชมได้ก่อน 16:30) ส่วนบริเวณรอบปราสาทโอซาก้า สามารถเดินเที่ยวได้ตลอด 24 ชั่วโมง
🗺️ที่ตั้ง : โอซาก้า
🚅แนะนำการเดินทาง : รถไฟสาย JR จากสถานี Osaka-jo Koen หรือสถานี Morinomiya เดินต่อประมาณ 5 นาที / จากรถไฟฟ้าใต้ดินโอซาก้า สถานี Tanimachi Yonchome เดินต่อประมาณ 5 นาที
6. วัดเอคันโด 永観堂
วัดเอคันโด หรือ วัดเอคันโดเซนรินจิ (永観堂禅林寺) นับเป็นหนึ่งในจุดชิมวิวที่เหมาะแก่การรับชมใบไม้เปลี่ยนสีและยังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากอีกด้วยเพราะมีการตกแต่งภายในไว้อย่างสวยงามตระการตา มีลำธารเล็กๆ บ่อน้ำใจกลางวัดและสะพานเชื่อมต่อกับส่วนที่เป็นอาคารต่างๆ ที่นี่จะมีความสวยงามที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เพราะมองไปทางไหนก็จะเห็นใบไม้เป็นสีแดงไปหมด มีจุดชมวิวให้เห็นเมืองโอซาก้าทั้งเมืองกันไปเลย ส่วนยามค่ำคืนก็จะมีจัดแสดงไฟภายในวัดอีกด้วย เรียกได้ว่าให้ยลโฉมความสวยงามกันทั้งกลางวันกลางคืน ให้บรรยากาศโรแมนติกในทุกโมเมนต์แบบสุดๆ ไปเลย
💸ค่าบริการ : กลางวัน 1000 เยน / กลางคืน 600 เยน
⏱️เวลาให้บริการ : 9:00-16:00 (ปิดประตู 17:00) / ช่วงเปิดไฟไลท์อัพ 17:30-20:30 (ปิดประตู 21:00)
🗺️ที่ตั้ง : เมืองเกียวโต
🚅แนะนำการเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย Tozai Line จากสถานี Kyoto ให้นั่งรถไฟสาย Karasuma Line มาที่สถานี Karasuma Oike แล้วเปลี่ยนเป็นรถไฟสาย Tozai Line มาลงที่สถานี Keage
7. สวนฮิตาชิ ซีไซด์ปาร์ค 国営ひたち海浜公園
เพื่อนๆ คนไหนมีความฝันว่าได้ยืนอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้สวยๆ บนพื้นที่กว้างใหญ่ ฝันได้เป็นจริงแล้ว เมื่อมาที่สวนฮิตาชิ ซีไซด์ปาร์ค หรือ สรวงสวรรค์แห่งดอกไม้ ที่นี่สามารถรับชมดอกไม้อันงดงามได้ตามฤดูกาลตลอดทั้งปี ไม่มีเบื่อ โดยในแต่ละฤดูดอกไม้จะแตกต่างกันบนพื้นที่กว้างใหญ่ริมมหาสมุทรแปซิฟิค ไม่ว่าจะเป็น ดอกเมโมฟีลา, ดอกทิวลิป, ดอกกุหลาบ, ดอกนาร์ซิสซัส และดอกไม้อื่นๆ ซึ่งในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะได้รับชมพุ่มดอกโคเซีย (Kochia) พุ่มกลมๆ น่ารัก โดยในช่วงเดือนตุลาคมจะเริ่มกลายสีแดงสลับเหลืองให้ความรู้สึกสนุกกับสีสันแปลกตา ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ต้องมาชมให้ได้สักครั้ง
💸ค่าบริการ : ผู้ใหญ่ อายุ 15 ปีขึ้นไป ราคา 800 เยน / ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป ราคา 560 เยน
⏱️เวลาให้บริการ : 9.30 – 17.00 (เวลาอาจเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล)
🗺️ที่ตั้ง : เมืองฮิตาชินากะ, จังหวัดอิบารากิ
🚅แนะนำการเดินทาง : นั่งรถไฟ JR จากสถานี Tokyo ไปลงสถาน Katsuta แล้วนั่งรถไฟต่อไปยังสถานี Kaihin Koen Nishiguchi อีกประมาณ 10 นาที
8. เจดีย์แดง ชูเรโตะ 忠霊塔
เจดีย์แดงห้าชั้น หนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ทางสงคราม ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะอาราคุระยามะเซ็นเก็น ที่นี่มีจุดชมวิวมหาชนที่สามารถเก็บภาพเจดีย์แดง ชูเรโตะ, ภูเขาไฟฟูจิและวิวเมืองฟูจิโยชิดะใบไม้บนต้นกลายเป็นสีแดงเต็มเมืองไปพร้อมๆ กัน เรียกว่าวิวหลักล้านของจริง โดยระหว่างทางขึ้นไปเจดีย์แดงก็ได้พบกับใบไม้เปลี่ยนสีให้เห็นเต็มไปหมด ยิ่งทำให้รู้สึกถึงความงดงามกินใจแบบที่หาชมจากที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
💸ค่าบริการ : ไม่มีค่าบริการ
⏱️เวลาให้บริการ : เข้าชมได้ตลอด 24 ชม.
🗺️ที่ตั้ง : เมืองฟูจิโยชิดะ, จังหวัดยามานาชิ
🚅แนะนำการเดินทาง : จากสถานี Shinjuku นั่งรถไฟด่วน Limited Express SUPER AZUSA สายฟูจิคิว (Fujikyu Railway) ที่สถานีโอสึกิ (Otsuki Station) แล้วลงที่สถานีชิโมะโยชิดะ
9. สะพานชินเคียว 神橋
สะพานศักดิ์สิทธิ์หรือสะพานเทพแห่งนิกโก้ ที่ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าศาลเจ้านิกโกะฟุตาระซาน หนึ่งในสามของสะพานที่สวยที่สุดของประเทศญี่ปุ่น และยิ่งในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ทั้งสองฝั่งจะรายล้อมไปด้วยใบไม้สีแดงส้มทำให้เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่ไม่ควรพลาด และยังมีอีกไฮไลท์ของที่นี่ คือ เครื่องบินกระดาษทำความปรารถนาให้เป็นจริง โดยสามารถซื้อได้ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว เพียงเขียนความที่ปรารถนาลงไป แล้วร่อนเครื่องบินนั้นจากสะพานชินเคียวไปยังแม่น้ำไดยากาวะ ความปรารถนาจะเป็นจริง มาลองทำเก็บไว้ในเป็นความทรงจำดีๆ ก็น่าสนใจไม่น้อยเลย
💸ค่าบริการ : ค่าตั๋วข้ามสะพาน 300 เยน
⏱️เวลาให้บริการ : เข้าชมได้ตลอด 24 ชม.
🗺️ที่ตั้ง : เมืองนิกโก้, จังหวัดโทจิงิ
🚅แนะนำการเดินทาง : รถไฟชินคันเซนจากสถานี Tokyo ไปลงที่สถานี Utsunomiya ขึ้นรถไฟสาย JR Nikko ไปลงสถานี Nikko และนั่งรถบัส Tobu มุ่งหน้าไปยัง Chuzenji-ko ไปลงป้าย Shinkyo
10. หุบเขาโครังเค 香嵐渓
ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวติดอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่นในเรื่องของทัศนียภาพ วิวสวยๆ ของธรรมชาติที่งดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ต้นเมเปิ้ลกว่า 4,000 ต้นร่วมกับไม้นานาพันธุ์อยู่ในช่วงเปลี่ยนสี ตามริมแม่น้ำโทโมเอะที่มีสะพานไทเกะสึเคียวตัดผ่านอยู่สองฝั่ง เรียกได้ว่าเป็นที่ที่สวยที่สุดในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีราวกับฉากในฝันเลยทีเดียว ทำให้ที่นี่มีนักท่องเที่ยวมาชมกันเยอะมากๆ นอกจากนี้ยังมีการจัดงานเทศกาลเมเปิ้ล หรือ เทศกาลโครังเค โมมิจิ มัตสึริ ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งจะประดับด้วยไฟตกแต่งให้ได้รับชมความงดงามกันได้ในยามค่ำคืนอีกด้วย
💸ค่าบริการ : 300 เยน
⏱️เวลาให้บริการ : เข้าชมได้ตลอด 24 ชม.
🗺️ที่ตั้ง : เมืองโตโยตะ, จังหวัดไอจิ
🚅แนะนำการเดินทาง : ขึ้นรถไฟใต้ดิน สาย Higashiyama ลงที่สถานี Toyota-shi ต่อรถ Meitetsu Bus Yamani Line เพื่อไปลงที่ป้าย Korankei
11. อาราชิยามะ 嵐山
แหล่งรวมสุดยอดของความงดงามติดอันดับต้นๆ ของเกียวโต ให้กลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นโบราณที่ต้องมาเยือนเลยก็ว่าได้ ตั้งแต่เส้นทางป่าไผ่หนาทึบสุดลูกตาให้สัมผัสได้ถึงความร่มรื่นตลอดทาง ภาพจำของคนทั่วโลกที่ต้องเคยเห็นผ่านตากันมาบ้าง และวัดเทนริวจิอันเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์ของเกียวโตที่นักท่องเที่ยวต่างก็ยกให้เป็นหนึ่งในสถานที่ติดดาวในเรื่องของความงดงามที่รายล้อมด้วยภูเขา แม่น้ำ ลำธาร โดยเฉพาะในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ใบไม้จะเปลี่ยนเฉดเป็นสีแดงส้ม รวมถึงไปถึงสวนคาเคยามะ พลาดไม่ได้ที่จะขึ้นไปยังจุดชมวิว จะได้เห็นทั้งย่านของอาราชิยามะ บอกเลยว่าถ้าได้เห็นแล้ว ใจฟูสุดๆ เลย
💸ค่าบริการ : ป่าไผ่อาราชิยามะ ชมฟรี ไม่มีค่าบริการ
สวนคาเคยามะ ชมฟรี ไม่มีค่าบริการ
วัดเทนริวจิ ค่าบริการชมสวน 500 เยน / ชมวัด 300 เยน
⏱️เวลาให้บริการ : ป่าไผ่อาราชิยามะ ตลอด 24 ชั่วโมง
สวนคาเคยามะ ตลอด 24 ชั่วโมง
วัดเทนริวจิ 8.30 – 17.00
🗺️ที่ตั้ง : อาราชิยามะ, เกียวโต
🚅แนะนำการเดินทาง : นั่งรถไฟจากสถานี Kyoto สาย JR Sagano Line (JR San-In Line) มาลงที่สถานี Saga-Arashiyama
12. หมู่บ้านออนเซ็น โจซังเค 定山渓
เมืองออนเซ็นอันมีชื่อเสียงมากที่สุดของซัปโปโร และมีสีสันมากที่สุดในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ที่นี่เต็มไปด้วยบ่อน้ำแร่ออนเซ็นหลายแห่งให้ได้เลือกแช่กันแบบจุใจ ท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสีโอบล้อมไปทั่วทุกทิศพร้อมสัมผัสลมหนาวอากาศบริสุทธิ์เย็นสบายบวกกับความสงบของที่นี่ เหมาะกับการหลีกหนีความวุ่นวาย ถ้าใครต้องการพักผ่อนล่ะก็ ที่นี่ตอบโจทย์เรื่องการพักผ่อนอย่างแท้จริง และโจซังเคแห่งนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่สวยที่สุดในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีของฮอกไกโดเลยก็ว่าได้
💸ค่าบริการ : 300 เยน
⏱️เวลาให้บริการ : 07.00 – 20.00 (ไม่มีวันหยุด)
🗺️ที่ตั้ง : ฮอกไกโด
🚅แนะนำการเดินทาง : จากสถานีขนส่งซัปโปโร ขึ้นรถบัสโจเทตซึหมายเลข 7 หรือ 8 เพื่อไปโจซังเคออนเซ็น รถบัสออกทุกชั่วโมงโดยประมาณ ใช้เวลา 75 นาที
13. ศาลเจ้านิกโก้โทโชกู (Nikko Toshogu Shrine) 日光東照宮
ศาลเจ้าอันงดงามมีอายุกว่า 260 ปี โดยสร้างเพื่ออุทิศให้กับท่านโทกุกาวะ อิเอยาซุ โชกุนคนแรกที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น นักออกแบบจึงให้ความสำคัญกับความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่และความพิถีพิถันใส่ใจในรายละเอียดมากเป็นพิเศษนับว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ และสิ่งที่จะสะดุดตาเลยก็คือเจดีย์ห้าชั้นอันโดดเด่นตั้งอยู่ทางเข้าหลักมีความหมายของธาตุหลักต่างๆ บนโลก ได้แก่ ดิน น้ำ ไฟ ลม และความว่างเปล่า เรียงตามลำดับจากล่างขึ้นบน
นอกจากนี้ยังจะได้พบกับประตูโยะเมะอิมงเป็นประตูที่ประดับประดาสวยงามที่สุดในญี่ปุ่น มีภาพแกะสลัก 508 รูปที่มีความละเอียด โดยสลักเป็นรูปเด็ก ๆ คนชรา และสัตว์ในตำนาน ประตูนี้เป็นผลงานชิ้นเอกงานแกะสลักยุคเอโดะอีกด้วย
ซึ่งช่วงใบไม้เปลี่ยนสีของที่นี่ ตลอดทางเดินเข้าไปชมศาลเจ้าจะได้ชมกับใบไม้สีแดงส้มให้แวะถ่ายรูปกันได้แบบไม่รู้เบื่อ และยิ่งได้สัมผัสบรรยากาศกับวิวทิวทัศน์ร่วมกับประติมากรรมของที่นี่ แล้วล่ะก็ บอกเลยว่าหาความรู้สึกสุดประทับใจแบบนี้จากที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
💸ค่าบริการ : ค่าเข้าชม 1300 เยน
⏱️เวลาให้บริการ : เวลา 8:00 – 17:00 น. (พฤศจิกายน – มีนาคม: 8:00 – 16:00 น.)
🗺️ที่ตั้ง : นิกโกะ
🚅แนะนำการเดินทาง : นั่งรถบัส 10 นาที จาก Tobu หรือ JR Nikko Stations
14. โอบาระ 小原
ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือใบไม้เปลี่ยนสีที่โอบาระแห่งนี้บอกได้เลยว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตติดอันดับต้นๆ ที่จะต้องไปให้ได้เลย เพราะทุกคนตกตะลึงในการชมใบไม้เปลี่ยนสีกับดอกซากุระบานไปพร้อมๆ กัน ซึ่งมีทั้งหมด 2 จุดให้ได้รับชม คือสวนโอบาระ ฟุเรไอและเซนมิ ชิกิซากุระ โนะ ซาโตะ ต้องบอกเลยว่าจุดนี้จะได้สัมผัสลมหนาวโอบล้อมด้วยธรรมชาติแสนงดงามหลากสีสันได้ในคราวเดียวกัน แนะนำให้ติดดาวที่โอบาระเอาไว้ได้เลย
ซึ่งที่สวนโอบาระ ฟุเรไอ ยังมีการจัดเทศกาลชมดอกซากุระสี่ฤดูที่โอบาระ (Obara Shikizakura Matsuri) ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 16 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2024 เข้าชมกันฟรีๆ ภายในงานจะมีการแสดงที่น่าสนใจมากมาย อย่างเช่น การแสดง Obara Kabuki รวมไปถึงร้านอาหารญี่ปุ่นต่างๆ ให้ได้แวะชิมกันได้ตลอดทาง ไปจนถึงการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์กระดาษญี่ปุ่น Japanese Paper Art Museum และ Art and Crafts Center และที่พลาดไม่ได้คือจุดไฮไลท์สำคัญคือ ต้นชิกิซากุระ อายุกว่า 100 ปี ที่ได้รับการรักษาเป็นสมบัติทางธรรมชาติของจังหวัดไอจิอีกด้วย
💸ค่าบริการ : ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
⏱️เวลาให้บริการ : 9.00 – 16.00
🗺️ที่ตั้ง : โอบาระ จังหวัดไอจิ
🚅แนะนำการเดินทาง : จากสถานี Nagoya นั่งรถไฟใต้ดินสาย Higashiyama ลงที่สถานี Fushimi จากนั้นเปลี่ยนขบวนเป็นรถไฟใต้ดิน สาย Tsurumai – สาย Meitetsu Toyota (ทั้ง2สายเชื่อมต่อกันโดยตรง) ลงสถานี Toyotashi จากนั้นนั่งรถบัส Toyota Oiden bus สาย Obara-toyota มุ่งไปทาง Kaminigi
15. วัดคิโยมิสึเดระ 清水寺
หรือที่เรียกกันว่า วัดน้ำใส อันมีชื่อเสียงเรียกได้ว่าดังที่สุดในญี่ปุ่นก็คงไม่ผิดเพราะด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงามจนทำให้ได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลก โดยที่มาของวัดน้ำใสก็คือน้ำที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของน้ำตกโอโตวะที่ไหลผ่านตัววัดนั่นเอง และยังมีจุดที่น่าสนใจอื่นๆ อย่างเช่น อาคารไม้ขนาดใหญ่ที่ใครๆ ได้ฟังแล้วต้องตกใจ เพราะก่อสร้างโดยไม่ใช้ตะปูใดๆ ทั้งสิ้น ถือว่าเป็นภูมิปัญญาของชาวญี่ปุ่นโบราณ ซึ่งเสาของอาคารมีความสูงถึง 13 เมตร ออกแบบให้ตัวอาคารยื่นออกไปภายนอกให้ได้ชมวิวทิวทัศน์อันตื่นตาของเมืองเกียวโต เรียกได้ว่าเป็นจุดชมวิวที่สามารถมาเยี่ยมชมได้ทุกฤดูกาลเลย
ในส่วนของฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ที่แห่งนี้จะทำให้คุณได้จดจำความประทับใจได้อย่างไม่มีวันลืมจากวิวอันตื่นตาจากตัวอาคารที่ล้อมไปด้วยใบไม้สีแดงส้ม รวมไปถึงเมืองเกียวโตที่กลายเป็นสีแดงส้มจากสีของใบไม้ไปพร้อมๆ กัน เรียกได้ว่าครบทั้งความสวยงามและยังได้ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ได้พบเจอแต่สิ่งดีๆ กันอีกด้วย
💸ค่าบริการ : ค่าเข้าชม 400 เยน
⏱️เวลาให้บริการ : 6.00 – 18.00
🗺️ที่ตั้ง : เกียวโต
🚅แนะนำการเดินทาง : นั่งรถบัสเมืองเกียวโตหมายเลข 100 หรือ 206 จากสถานีเกียวโตมาลงที่ป้าย Gojozaka หรือ Kiyomizu-michi จากนั้นเดินต่อประมาณ 10 นาที
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมของญี่ปุ่น น่าเที่ยว น่าไปสัมผัสบรรยากาศเหล่านี้ให้ได้สักครั้งเลย ว่ามั้ย?
ไปทัวร์ต่างประเทศ กับบริษัทไหนดี? ไปเที่ยวต่างประเทศกับพี่หมีเอ็กซ์แอล
เราพร้อมมอบความสุข ‘ไซส์ใหญ่’ ไม่เท ไม่ทิ้ง ทัวร์ญี่ปุ่น กับ XL World Tour ดูแพ็กเกจทัวร์สุดคุ้ม ทัวร์ใบไม้เปลี่ยนสี เพิ่มเติม >> คลิกเลย
ถ้าชอบบทความของ XL World Tour
ฝากกด Like & Share หรือกดติดตามเพจ Facebook
เพื่ออัพเดทข่าวสาร สถานที่ท่องเที่ยว โปรแกรมทัวร์ราคาดี ๆ กับครอบครัวพี่หมีด้วยกันนะ