เที่ยวฉงชิ่ง (Chongqing) มหานคร 3 มิติ จากเมืองไซเบอร์พังค์สู่มรดกโลกอู่หลง

      ลองจินตนาการถึงเมืองที่แผนที่ เหมือนหลุดมาจากหนังไซไฟ  เมืองที่คุณยืนอยู่บนชั้น 1 อยู่ดีๆ มองไปอีกฝั่งกลายเป็นชั้นที่ 22 เมืองที่รถไฟฟ้ารางเบาไม่ได้วิ่งอยู่แค่บนดินหรือใต้ดิน แต่กลับพุ่งทะลุผ่านกลางตึกอพาร์ตเมนต์สูง 20 ชั้น นี่ไม่ใช่ฉากจากภาพยนตร์ไซไฟ แต่คือ ความจริงในชีวิตประจำวันของ ฉงชิ่ง (Chongqing 重庆) มหานครที่ท้าทายทุกกฎเกณฑ์ของแรงโน้มถ่วง

      ฉงชิ่ง หรือ ที่รู้จักกันในนาม เมือง 3 มิติ (3D City) และ เมืองไซเบอร์พังค์ (Cyberpunk City) คือ ปรากฏการณ์ที่ต้องมาเห็นด้วยตาตัวเอง เป็นการผสมผสานของสถาปัตยกรรมที่ดูเหมือนหลุดมาจากอนาคต และวิวที่แปลกตา บริเวณ จุดบรรจบของแม่น้ำแยงซีและแม่น้ำเจียหลิง บางคนกล่าวว่า ที่นี่คือ ฮ่องกงที่อัดสเตียรอยด์ (Hong Kong on steroids 打了激素的香港) ที่ตึกระฟ้าไม่ได้แค่ตั้งตรง แต่ดูเหมือนจะเกาะเกี่ยวอยู่ตามหน้าผาที่สูงชันอย่างเหลือเชื่อ

      ความมหัศจรรย์ของฉงชิ่งไม่ได้เกิดจากการออกแบบ เพื่อให้ดูล้ำยุค แต่เกิดจากความจำเป็น ภูมิประเทศที่เป็นภูเขาสูงชัน (impossibly steep mountainsides) และ หุบเขาลึก (vertiginous valleys) บีบให้มหานครแห่งนี้ต้องเติบโตในแนวตั้งและซ้อนทับกันอย่างซับซ้อน ผลลัพธ์ คือ ภาพที่เหนือจริง (surreal) อย่างเช่นสะพานลอยคนข้ามที่เชื่อมต่อชั้น 13 ของอาคารหนึ่งเข้ากับถนนอีกฝั่ง หรือ ทางยกระดับที่ลอยอยู่สูงเท่าตึก 20 ชั้น นี่ไม่ใช่มหานครธรรมดา แต่คือ มิติแห่งสถาปัตยกรรม ที่พร้อมจะบิดเบือนทุกสัมผัสการรับรู้ของคุณ แต่ภายใต้ความล้ำยุคที่สับสนวุ่นวายนี้ ฉงชิ่งยังซ่อนความงามที่อ่อนโยน การผจญภัยระดับโลก และ จังหวะชีวิตที่น่าหลงใหลรอให้คุณไปค้นพบ

พรมสีทองแห่งเหมันต์ ฤดูกาลลับแห่งความโรแมนติก

      ท่ามกลางโครงสร้างเหล็กและแสงนีออนของเมือง 3 มิติ ฉงชิ่งมีความลับที่อ่อนโยนและโรแมนติกซ่อนอยู่ นั่นคือ “ฤดูกาลสีทอง” ที่จะมาเยือนเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ในแต่ละปี หากคุณวางแผนการเดินทางได้ถูกจังหวะ คุณจะได้พบกับภาพที่แตกต่างไปจากความ ไซเบอร์พังค์ โดยสิ้นเชิง ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการมาเยือน คือ ปลายเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนพฤศจิกายน ซึ่งอาจจะยังคงความงดงามต่อไปจนถึงต้นเดือนธันวาคมในบางพื้นที่ นี่คือช่วงเวลาที่ต้นแปะก๊วย (Ginkgo) นับพันนับหมื่นต้น พร้อมใจกันผลัดใบ เปลี่ยนทั้งเมืองให้กลายเป็นพรมสีทองอร่าม

      ที่เที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยม คือ สวนสาธารณะฉงชิ่ง (Chongqing Central Park) สวนสาธารณะฉงชิ่งมีพื้นที่กว้างกว่า 1.53 ตารางกิโลเมตร พร้อมกับสนามหญ้ากว้าง มีทั้งทะเลสาบ น้ำพุ รวมถึงสวนสวย ๆ ที่สามารถมาเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะสวนคาเมเลีย สวนซากุระ สวนดอกหอมหมื่นลี้ แต่ถ้ามาในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี จะได้เห็นแนวต้นแปะก๊วยที่ผลิใบเหลืองอร่าม มีมุมสวย ๆ ให้ถ่ายรูปเยอะมาก รือใครจะมาเดินเล่น พักผ่อน ชมวิวธรรมชาติสวยๆ ก็ชิลดีเหมือนกัน

วิธีการเดินทาง :

• 🚇 วิธีการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน (Metro/CRT)

  • ขึ้นรถไฟฟ้าสาย 10 (Line 10) ลงที่สถานี : Central Park (中央公园站) เดินเข้าสู่พื้นที่สวนสาธารณะได้เลย

• 🚕 วิธีการเดินทางอื่น ๆ

  • แท็กซี่/รถร่วม (DiDi) : การเรียกรถแท็กซี่หรือใช้แอปพลิเคชัน DiDi (คล้าย Uber/Grab ในจีน) เป็นทางเลือกที่สะดวกสบายและรวดเร็วที่สุด โดยเฉพาะหากคุณเดินทางเป็นกลุ่มหรือมีสัมภาระ เพียงแค่ปักหมุดที่ Chongqing Central Park (重庆中央公园) ได้เลยค่ะ

  • รถประจำทาง (Bus) : มีรถประจำทางหลายสายวิ่งผ่านบริเวณสวนสาธารณะ แต่การใช้รถไฟฟ้าใต้ดินมักจะรวดเร็วและตรงเวลามากกว่าค่ะ

พิกัดที่ตั้ง : https://maps.app.goo.gl/HRFsf88wdwzhg3oi9

การผจญภัยสู่ดินแดนอัศจรรย์ มรดกโลกแห่งอู่หลง

      หลังจากตื่นตากับ ภูมิทัศน์ (Land scapes) ในเมืองแล้วสามารถออกมาเที่ยวนอกเมืองได้ โดยมีเมืองใกล้ๆ กันชื่อว่าอู่หลง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.5 ถึง 3.5 ชั่วโมง เป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติหลุมฟ้า 3 สะพานสวรรค์ (Wulong Karst National Geology Park) สถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO และที่นี่ ไม่ใช่แค่สวยแต่มันยิ่งใหญ่ ในระดับที่ฮอลลีวูดยังต้องมาเยือน

      นี่คือ สถานที่ถ่ายทำฉากสำคัญในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ Transformers : Age of Extinction ทันทีที่คุณมาถึง คุณจะได้รับการต้อนรับจากหุ่นยนต์ บัมเบิลบี (Bumblebee) ก่อนที่ประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นที่สุดจะเริ่มต้นขึ้น นั่นคือการก้าวเข้าสู่ลิฟต์แก้วริมหน้าผา ที่จะพาคุณดิ่งลงไปใน หลุมฟ้า (Tiankeng) หรือ หลุมยุบขนาดยักษ์ ความสูงกว่า 80 เมตร มันคือการเปลี่ยนผ่านจากโลกหนึ่งไปสู่อีกโลกหนึ่ง ที่อยู่ลึกลงไปเบื้องล่าง

      เมื่อคุณลงมาถึงพื้นหุบเขา คุณจะได้พบกับความมหัศจรรย์ของสะพานสวรรค์ ซึ่งเป็นกลุ่มสะพานหินธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และ ท่ามกลางความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติที่นี่เอง ที่คุณจะได้พบกับ โรงเตี๊ยมเทียนฝู (Tianfu Station) โรงเตี๊ยมโบราณที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง ซ่อนตัวอยู่อย่างเงียบสงบกลางหุบเขา ซึ่งที่นี่ก็ถูกใช้เป็นฉากในภาพยนตร์ เรื่อง Curse of the Golden Flower ด้วย การได้เดินผ่านจุดที่ ออพติมัส ไพรม์ (Optimus Prime) ต่อสู้กับ ไดโนบอทส์ (Dinobots) และมายืนอยู่หน้าโรงเตี๊ยมโบราณอายุนับพันปีที่ซ่อนตัวในหุบเขาลึก ทำให้การมาเยือนอู่หลงไม่ใช่แค่การมาชมธรรมชาติ แต่เป็นการได้มาสัมผัสกับสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ดังระดับ “ฮอลลีวูด”

ค่าบริการ :

• High Season : มี.ค.- ต.ค. 125-135 หยวน รวมรถบัสอุทยานและลิฟต์แล้ว

• Low Season : พ.ย. – ก.พ. 95-105 หยวน โดยประมาณ

วิธีการเดินทาง :

🚂 ขั้นตอนที่ 1 : เดินทางจากฉงชิ่งไปอู่หลง (Wulong)

ตัวเลือกที่ 1 : รถไฟ (วิธีที่แนะนำและเร็วที่สุด)

• ต้นทางในฉงชิ่ง : ขึ้นรถไฟจากสถานีหลัก ๆ เช่น

  • Chongqing North Station (重庆北站)

  • Chongqing West Station (重庆西站)

  • Chongqing East Station (重庆东站) (หากมีรถไฟให้บริการ)

• ปลายทาง: Wulong Station (武隆站)

• ระยะเวลาเดินทาง : รถไฟความเร็วสูง (D-Train หรือ G-Train) ใช้เวลาประมาณ 1.5 ถึง 2 ชั่วโมง

• คำแนะนำ : ควรสั่งจองตั๋วรถไฟล่วงหน้าผ่านช่องทางออนไลน์ (เช่น Trip.com) เนื่องจากรถไฟไปยังอู่หลงเป็นที่นิยมมาก

ตัวเลือกที่ 2 : รถบัสระยะทางไกล

• ต้นทางในฉงชิ่ง : ขึ้นรถบัสที่ Sigongli Bus Terminal (四公里交通枢纽)

• ปลายทาง : Wulong Bus Station (武隆汽车站)

• ระยะเวลาเดินทาง : ประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร)

• คำแนะนำ : เป็นวิธีที่ถูกกว่ารถไฟ แต่ใช้เวลานานกว่ามาก

🚌 ขั้นตอนที่ 2 : เดินทางจากสถานีอู่หลงไปยังอุทยาน

เมื่อมาถึงเมืองอู่หลงแล้ว คุณต้องเดินทางต่อไปยัง ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานธรณีวิทยาแห่งชาติอู่หลง (Wulong Karst National Geology Park Visitor Center) ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองเซียนหนี่ว (Xiannv Town/Xiannv Zhen)

• รถบัสท้องถิ่น (ราคาประหยัดที่สุด):

  • เมื่อออกจากสถานีรถไฟอู่หลง (Wulong Station) ให้เดินหรือหารถไปยัง Wulong Bus Station (อยู่ห่างออกไปไม่ไกล)

  • ต่อรถบัสประจำทางไปยัง ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยาน (Tourist Center – ตึกรูปพีระมิด)

  • ค่าโดยสาร : ประมาณ 10 หยวน

  • ระยะเวลาเดินทาง : ประมาณ 30-40 นาที

• แท็กซี่/รถเหมา (สะดวกที่สุด)

  • คุณสามารถใช้บริการแท็กซี่หรือเรียกรถผ่านแอป DiDi จากสถานีรถไฟอู่หลง ไปยัง ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว โดยตรง

  • ค่าใช้จ่าย : จะสูงกว่ารถบัส (ควรตกลงราคาก่อนเดินทาง หรือใช้ DiDi เพื่อทราบราคาที่ชัดเจน)

  • ระยะเวลาเดินทาง : ประมาณ 30 นาที

เวลาให้บริการ : 08:00 – 17:00 น. โดยประมาณ

พิกัดที่ตั้ง : https://maps.app.goo.gl/sey4FzvNqrv1xzjy8

ชีพจรแห่งมหานคร เสน่ห์แห่งเจียฟ่างเป่ย

      หลังจากที่ชมธรรมชาติอย่างเต็มอิ่ม ก็กลับมาเที่ยวในตัวเมืองกันบ้าง ถนนคนเดินเจียฟ่างเป่ย (Jiefangbei Pedestrian Street 解放碑步行街) ที่นี่คือ ศูนย์กลางธุรกิจที่คึกคักที่สุด เปรียบได้กับไทม์สแควร์แห่งฉงชิ่งตะวันตก เป็นย่านที่เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวาตลอดเวลา เป็นสวรรค์ของนักช้อปและนักชิม ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

      สำหรับสายแฟชั่น นอกจากห้างสรรพสินค้าหรูหราที่เรียงราย ไฮไลท์ที่วัยรุ่นต้องตามหา คือ ร้านลับใต้ดิน (secret underground shops) ที่ซ่อนตัวอยู่ ซึ่งเต็มไปด้วยสินค้าแฟชั่นในราคาที่ย่อมเยากว่า ส่วนสายกิน แนะนำให้ไปที่ ถนนอาหารปาอี (Bayi Food Street หรือ Hao Chi Jie) ที่อยู่ติดกัน เป็นแหล่งรวมสตรีทฟู้ด และหม่าล่ารสชาติต้นตำรับที่เผ็ดชาถึงใจ

      เจียฟางเป่ย (Jiefangbei – 解放碑) เป็นย่านใจกลางธุรกิจ (CBD) และถนนคนเดินที่สำคัญที่สุดในฉงชิ่ง มีอนุสาวรีย์การปลดปล่อยประชาชน (People’s Liberation Monument) ตั้งอยู่กลางจัตุรัส การเดินทางไปที่นี่สะดวกมาก เพราะตั้งอยู่บนคาบสมุทร Yuzhong ซึ่งเป็นศูนย์กลางของเมืองค่ะ

วิธีการเดินทาง : 

• 🚇 วิธีการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน (CRT Metro)

  • Linjiangmen (临江门) สาย 2 (Line 2) แนะนำ Exit 1 เดินประมาณ 5-10 นาที ถึงอนุสาวรีย์

  • Xiaoshizi (小什字) สาย 1 (Line 1) และ สาย 6 (Line 6) แนะนำ Exit 9 เดินประมาณ 5-10 นาที

  • Jiaochangkou (较场口) สาย 1 (Line 1) และ สาย 2 (Line 2) เดินประมาณ 10-15 นาที (สถานีนี้อยู่สุดถนน Bayi Food Street)

💡 เคล็ดลับ :

• • Linjiangmen (สาย 2) เป็นสถานีที่ถูกระบุว่าเป็นสถานีที่ใกล้เจียฟางเป่ยที่สุด และสามารถเดินเข้าสู่ใจกลางถนนคนเดินได้อย่างรวดเร็ว

  • Xiaoshizi (สาย 1/6) ก็เป็นอีกจุดที่สะดวก และยังเป็นจุดเชื่อมต่อไปยัง หงหยาต้ง (Hongyadong) ด้วย (สามารถเดินจากเจียฟางเป่ยไปหงหยาต้งได้)

• 🚕 แท็กซี่ / DiDi

การเดินทางด้วยแท็กซี่หรือเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน DiDi ก็เป็นทางเลือกที่สะดวกมาก โดยเฉพาะหากคุณเดินทางจากโรงแรมในระยะทางที่ไม่ไกลมากนัก

• • ปักหมุดที่ : 解放碑 (Jiefangbei) หรือ 解放碑步行街 (Jiefangbei Pedestrian Street)

  • ข้อควรระวัง : ในช่วงเวลาเร่งด่วน (เช้า-เย็น) หรือช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ การจราจรในย่านนี้จะหนาแน่นมาก การใช้รถไฟฟ้าจะเร็วกว่าและประหยัดเวลากว่าค่ะ

หงหยาต้ง ฉงชิ่ง : เที่ยวตึก 11 ชั้น ต้นแบบ Spirited Away แสงสีสุดอลังการ ยามค่ำคืน

      แต่คุณค่าที่แท้จริงของเจียฟ่าเป่ยสำหรับนักท่องเที่ยว คือ การเป็นจุดเชื่อมต่อ ที่สมบูรณ์แบบสำหรับประสบการณ์ กลางวันสู่กลางคืน (Day-to-Night) ที่น่าจดจำที่สุด ลองวางแผนง่ายๆ ใช้เวลายามบ่ายช้อปปิ้งและสำรวจร้านค้าลับที่เจียฟ่างเป่ย จากนั้นแวะหาของกินเล่นรสเด็ดที่ถนนปาอี และเมื่อพระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำ แสงไฟนีออนเริ่มสว่างขึ้น ก็ได้เวลาเดินต่อไปยัง หงหยาต้ง (Hongyadong 洪崖洞) ซึ่งอยู่ในระยะที่เดินถึงกัน

      ที่หงหยาต้ง คุณจะได้พบกับภาพที่ทุกคนเฝ้ารอ อาคารไม้โบราณสไตล์จีน 11 ชั้น ที่ตั้งลดหลั่นกันลงมาตามหน้าผาริมแม่น้ำ เมื่อเปิดไฟสว่างไสวในยามค่ำคืน มันคือภาพที่งดงามราวกับหลุดออกมาจากฉากในอนิเมชั่นเรื่องดัง Spirited Away นี่คือหนึ่งใน เช็กลิสต์ห้ามพลาด ที่เริ่มต้นจากความทันสมัยของเจียฟ่างเป่ย และจบลงด้วยความมหัศจรรย์ยามค่ำคืนของหงหยาต้ง

หงหยาต้ง (Hongyadong/洪崖洞) เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเมือง ฉงชิ่ง เป็นคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ที่สร้างตามสถาปัตยกรรมแบบ เตี้ยวเจี้ยวโหลว (อาคารไม้ยกใต้ถุนสูง) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจียหลิง มีความโดดเด่นตระหง่านสูงถึง ชั้น สร้างลดหลั่นบนหน้าผา มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,300 ปี เคยเป็นป้อมปราการในสมัยโบราณ สิ่งที่ห้ามพลาดคือการชมแสงไฟที่จะเปิดในตอนเย็น ซึ่งทำให้ดูเหมือนหลุดเข้าไปในโลกของแอนิเมชัน (Spirited Away) ด้านในอาคารจะเต็มไปด้วยร้านอาหาร โดยเฉพาะหมาล่าต้นตำรับ สตรีทฟู้ด ร้านขายของฝาก และโรงแรม

ด้วยความสวยงามและมีเอกลักษณ์ทำให้ “หงหยาต้ง” ได้รับการจัดระดับแหล่งท่องเที่ยวให้อยู่ในระดับ 5A ตามการจัดระดับอย่างเป็นทางการของประเทศจีน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่มอบให้กับสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคุณภาพยอดเยี่ยม และได้กลายเป็น แลนด์มาร์ค (Landmark) อันดับ 1 ของนครฉงชิ่ง และเป็นสัญลักษณ์ของสถาปัตยกรรมท้องถิ่นแบบ เตี้ยวเจี้ยวโหลว (Diaojiaolou)

ช่วงเวลาเปิด-ปิดไฟ : 

• • เปิดไฟ : 18:00 น. (6 โมงเย็น) อาจเร็วขึ้นหรือช้าลงเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับฤดูกาลและเวลาพระอาทิตย์ตกดิน

  • ปิดไฟ : 22:00 น. (4 ทุ่ม) ในบางเทศกาลสำคัญหรือวันหยุดยาว อาจมีการขยายเวลาปิดไฟ

วิธีการเดินทาง : 

🚇 วิธีการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน (CRT Metro)

1. สถานีที่ลง

• • ขึ้นรถไฟฟ้าสาย 1 (Line 1) หรือ สาย 6 (Line 6)

  • ลงที่สถานี: Xiaoshizi Station (小什字站)

2. ทางออกและการเดินเท้า

• • ทางออกที่แนะนำ : ใช้ ทางออก 5 (Exit 5) หรือ ทางออก 6 (Exit 6)

  • เมื่อออกจากสถานีแล้ว ให้เดินตามป้ายบอกทางไปยัง หงหยาต้ง จะใช้เวลาเดินประมาณ 5-10 นาที

🚕 แท็กซี่ / รถร่วม (DiDi)

• • คุณสามารถเรียกแท็กซี่หรือใช้แอปพลิเคชัน DiDi (แอปเรียกรถในจีน) และปักหมุดเป็นภาษาจีนที่ : 洪崖洞 (Hongyadong)

  • ข้อควรระวัง : ช่วงเย็น (18:00 – 21:00 น.) การจราจรบริเวณหงหยาต้งจะหนาแน่นมาก การใช้รถไฟฟ้าใต้ดินจะรวดเร็วกว่าและแน่นอนกว่าค่ะ

💡 เคล็ดลับ :

• • คุณควรเดินไปที่บริเวณริมถนนที่สามารถมองเห็นตัวอาคารทั้งหมดจากภายนอกได้ (โดยเฉพาะฝั่งตรงข้ามแม่น้ำเจียหลิง) เพื่อถ่ายภาพมุมมหาชนที่สวยงามที่สุด โดยเฉพาะ หลังพระอาทิตย์ตกดิน (ช่วงไฟเปิด)

  • ตัวอาคารหงหยาต้ง มีทั้งหมด 11 ชั้น ชั้นบนสุด (ชั้น 11) จะอยู่ในระดับเดียวกับถนนคนเดิน หากคุณเข้าชมจากด้านบน คุณสามารถเดินลงบันไดหรือลิฟต์เพื่อสำรวจชั้นต่าง ๆ ได้ค่ะ

พิกัดที่ตั้ง : https://maps.app.goo.gl/6U1fdFxfBM1EETcy6

การบูรณาการพื้นที่ประวัติศาสตร์และสุนทรียภาพแห่งความเงียบสงบ

      มนต์เสน่ห์เหนือกาลเวลา ถนนคนเดินหลงเหมินห่าว (Longmenhao Old Street 龙门浩老街)  ในขณะที่ฝั่งเจียฟ่างเป่ยและหงหยาต้งนำเสนอความรุ่งโรจน์ของแสงสีและความทันสมัย เพียงข้ามฝั่งแม่น้ำแยงซีมายังเขตหนานอั้น คุณจะได้พบกับอีกมิติของฉงชิ่งที่เวลาดูเหมือนจะเดินช้าลง ณ ถนนเก่าแก่หลงเหมินห่าว ย่านประวัติศาสตร์ที่ซ่อนตัวอยู่อย่างเงียบสงบ เปรียบเสมือนจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่บอกเล่าเรื่องราวของฉงชิ่งในยุคเปิดท่าเรือและการผสมผสานทางวัฒนธรรม

      หลงเหมินห่าวตั้งอยู่บนเนินเขาหินริมแม่น้ำ แตกต่างจากความวุ่นวายของย่านการค้า เพราะที่นี่คือ พื้นที่แห่งสุนทรียะและประวัติศาสตร์ อาคารเก่าแก่ที่ได้รับการบูรณะอย่างประณีตกว่า 18 หลัง เรียงรายลดหลั่นกันไปตามแนวเขา โดยมีเอกลักษณ์เด่นชัด คือ การผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบโคโลเนียลและสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นฉงชิ่งที่ใช้อิฐสีเขียว (Green Bricks) และกระเบื้องสีเทา (Grey Tiles) ซึ่งหาชมได้ยากในปัจจุบัน

      การเดินเล่นที่นี่คือ การเดินทางย้อนเวลา คุณจะได้สัมผัสกับร่องรอยของอดีตเมื่อครั้งฉงชิ่งเปิดเป็นท่าเรือนานาชาติในปี 1891 และ บทบาทสำคัญในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ผ่านอาคารสถานทูตเก่าของเบลเยียม อิตาลี และ สหรัฐอเมริกา ที่ยังคงตั้งตระหง่านอย่างสง่างาม ท่ามกลางบรรยากาศที่ร่มรื่นและเงียบสงบกว่าหงหยาต้งมาก ทำให้คุณสามารถเดินทอดน่อง จิบกาแฟในร้านเก๋ๆ หรือ ถ่ายรูปกับมุมกำแพงอิฐเก่าที่มีฉากหลังเป็นสะพานตงสุ่ยเหมิน (Dongshuimen Bridge) สีแดงสดได้อย่างสบายใจ

      จุดไฮไลท์ที่ห้ามพลาด คือ “ระเบียงชมจันทร์” (Moon Viewing Platform) ลานระเบียงพื้นกระจกใสที่ยื่นออกไปเหนือหน้าผา มอบวิวพาโนรามาที่สวยจนแทบหยุดหายใจ เบื้องหน้าคือแม่น้ำแยงซีที่ไหลเอื่อย และ ฝั่งตรงข้ามคือเส้นขอบฟ้าของมหานครฉงชิ่งที่นำโดยตึกระฟ้า ราฟเฟิลส์ซิตี้และหงหยาต้ง ยามค่ำคืนเมื่อแสงไฟจากฝั่งเมืองสะท้อนลงบนผิวน้ำ ที่นี่จะกลายเป็นจุดชมวิว วิวกลางคืน ที่โรแมนติกและสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง โดยปราศจากความวุ่นวายของฝูงชน

      นอกจากนี้ หลงเหมินห่าวยังเป็นหมุดหมายสำคัญของแฟนคลับดาราชื่อดังอย่าง เซียวจ้าน (Xiao Zhan) ซึ่งเป็นชาวฉงชิ่ง ตามมุมต่างๆ ของถนนเก่ามักจะมีป้ายและจุดถ่ายรูปตามรอยที่เขาเคยมาเยือน ทำให้การมาที่นี่เป็นการเชื่อมโยงระหว่างประวัติศาสตร์ร้อยปีกับป๊อปคัลเจอร์ยุคใหม่ได้อย่างลงตัว การเพิ่มหลงเหมินห่าวเข้าไปในแผนการเดินทาง จะช่วยเติมเต็มทริปฉงชิ่งของคุณให้สมบูรณ์แบบ ด้วยรสสัมผัสของประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้งและความงามที่ละเมียดละไม

วิธีการเดินทาง :

🚇 วิธีการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน (CRT Metro)

1. สถานีที่ลง

• ขึ้นรถไฟฟ้าสาย 6 (Line 6) หรือ สายวงแหวน (Loop Line)

• ลงที่สถานี : Shangxinjie Station (上新街站)

2. ทางออกและการเดินเท้า

• ทางออกแนะนำ : ใช้ ทางออก 1 (Exit 1) หรือ ทางออก 2 (Exit 2)

• เดินเท้า : จากทางออกสถานี Shangxinjie คุณจะเดินต่ออีกเพียงระยะสั้น ๆ ประมาณ 160 – 300 เมตร ก็จะถึงทางเข้าของถนนโบราณ Longmenhao ค่ะ

💡 เคล็ดลับ : แนะนำให้ออกทาง Exit 2 สำหรับ Longmenhao Old Street และ Exit 1 สำหรับ Xiahaoli Old Street (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่โบราณใกล้เคียง) แต่ทั้งสองทางออกก็อยู่ใกล้เคียงกันค่ะ

🚡 ตัวเลือกอื่น : นั่งกระเช้าข้ามแม่น้ำ (Yangtze River Cableway)

การเดินทางไป Longmenhao Old Street สามารถรวมเข้ากับประสบการณ์นั่งกระเช้าข้ามแม่น้ำแยงซีเกียงได้ด้วยค่ะ (เป็นกิจกรรมที่ห้ามพลาดของฉงชิ่ง)

1. ขึ้นกระเช้า : ขึ้นกระเช้าจากฝั่ง Yuzhong Peninsula (ใกล้สถานี Xiaoshizi)

2. ลงที่ฝั่งหนานอาน (Nan’an) : กระเช้าจะมาลงที่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งใกล้เคียงกับบริเวณ Longmenhao Old Street และ Xiahaoli Old Street (สามารถเดินต่อไปยังถนนโบราณได้)

🚕 แท็กซี่ / DiDi

คุณสามารถเรียกแท็กซี่หรือใช้แอปพลิเคชัน DiDi (แอปเรียกรถในจีน) และปักหมุดเป็นภาษาจีนที่:

• 龙门浩老街 (Longmenhao Lao Jie)

• 南滨路 (Nanbin Lu)

พิกัดที่ตั้ง : https://maps.app.goo.gl/gZVJu8WvcaSqkTna7

ไปทัวร์ต่างประเทศ กับบริษัทไหนดี? ไปเที่ยวต่างประเทศ กับพี่หมีเอ็กซ์แอล ʕ´•ᴥ•`ʔ/

เราพร้อมมอบความสุข ‘ไซส์ใหญ่’ ไม่เท ไม่ทิ้ง ทัวร์ฉงชิ่ง ทัวร์จีน กับ XL World Tour ดูแพ็กเกจทัวร์สุดคุ้ม เพิ่มเติม >> คลิกเลย