วัดเอคันโด (永観堂 : Eikan-dō) หรือชื่อทางการว่า วัดเอคันโด เซ็นรินจิ (永観堂禅林寺 : Eikan-dō Zenrin-ji) เป็นวัดพุทธศาสนานิกายโจโด (Jodo) หรือ “นิกายสุขาวดี” ก่อตั้งในปี 853 ในช่วงสมัยเฮอัน (Heian) ตั้งอยู่ในเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น เป็นวัดที่มีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงามและโด่งดังที่สุดในเกียวโต จนเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “เอคันโด วัดแห่งฤดูใบไม้เปลี่ยนสี” เพราะจะมีต้นเมเปิ้ลญี่ปุ่นและต้นเมเปิลยักษ์ปกคลุมไปทั่วบริเวณวัดมากถึง 3,000 ต้น และในเดือนพฤศจิกายนของทุก ๆ ปี จะมีการจัดงาน “นิทรรศการจัดแสดงสมบัติอันล้ำค่าของวัดในฤดูใบไม้ร่วง” ที่วัดแห่งนี้ ซึ่งปกติแล้วจะไม่ได้เปิดให้ชมต่อสาธารณะชนในวันทั่ว ๆ ไป โดยงานนี้จะมีการจัดแสดงรูปปั้นพุทธอันทรงคุณค่า ภาพเขียนพู่กันและภาพวาด งานฝีมือ ฯลฯ ซึ่งเป็นโอกาสที่หาได้ยากในการเรียนรู้เชิงลึกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม รวมถึงเนื้อหาความเป็นมาที่เกี่ยวข้องกับวัดแห่งนี้ นอกจากนี้พื้นที่ทั่วบริเวณวัดจะถูกย้อมด้วยสีแดงและเหลืองของใบไม้เปลี่ยนสีสลับไปมา ให้เราได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของฤดูใบไม้ร่วงที่สวยงามของวัดในเมืองเกียวโตแห่งนี้

ประวัติของวัดเอคันโด

ย้อนกลับไปในช่วงต้นของสมัยเฮอัน (Heian) ที่ ชินโจ โซซู (真紹僧都 : Shinjo Sozu)  ลูกศิษย์อาวุโสของ โคโบ ไดชิ (弘法大師 : Kobo Daishi) มีความปรารถนาที่จะสร้างสำนักสำหรับนิกายชินงอน (僧侶) โดยดัดแปลงบ้านพักบนภูเขาของ ฟูจิวาระ เสกิโอะ (藤原関雄 : Fujiwara Sekio) ผู้ซึ่งเป็นนักกวีและนักวรรณกรรม ซึ่งเกียวโตในขณะนั้น ห้ามมิให้สร้างวัดส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่สิบปีต่อมาในปี พ.ศ. 863 วัดแห่งนี้ ได้รับใบอนุญาตจากจักรพรรดิเซวะ ให้เป็น วัดโจฮาคุจิและชื่อวัด `”เซ็นรินจิ” ทำให้ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ ต่อมาได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งในรัชสมัยของหัวหน้านักบวชองค์ที่ 7 มีนามว่า โยคัง ริชชิ หรือ เอคัน ริชชิ (永観律師) (1033-1111) ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสของวัดที่เป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากมีความเลื่อมใสและศรัทธาหลักคำสอนของ “อามิดะ” เมื่อเขาเข้ามาปลายศตวรรษที่ 11 ก็ได้กลายเป็นสำนักเน็นบุตสึสำหรับพุทธศาสนานิกายโจโด และเขาได้ก่อตั้งยาคุโอะอินขึ้นภายใน เพื่ออุทิศตนให้กับงานการกุศล เช่น การสร้างสถานพยาบาลภายในบริเวณวัดเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ รวมถึงบรรเทาทุกข์ผู้ป่วย นอกจากนี้จึงได้เผยแพร่การสวดภาวนาเน็มบุตสึ ด้วยเหตุนี้ วัดเซ็นรินจิจึงเป็นที่รู้จักในนาม “เอคันโด” ซึ่งเป็นการให้เกียรติแก่พระเอคัน และเป็นหนึ่งในวัดที่โดดเด่นที่สุดของเกียวโตซึ่งมีประวัติศาสตร์อันยาวนานยาวนานกว่า 1,000 ปีในฐานะวัดโบราณ “เอคันโดแห่งใบไม้เปลี่ยนสี”

สมบัติอันล้ำค่าของวัด

ปัจจุบันมีสมบัติพิเศษอันทรงคุณค่าจำนวน 58 ชิ้น ที่ถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี และจะนำมาจัดแสดงใน “นิทรรศการจัดแสดงสมบัติอันล้ำค่าของวัดในฤดูใบไม้ร่วง” ของทุก ๆ ปี ของที่นำมาโชว์ก็จะมีอย่างเช่น “ภาพวาดผ้าไหมสีของยามาโคชิ อมิดะ”  (伝恵心僧都 : Denkeishin Sozu), “ทองสัมฤทธิ์ลายดอกบัว” (ราชวงศ์ถัง) และ “ภาพวาดจิตรกรรมลายคลื่นน้ำ”  (โทฮากุ ฮาเซกาวะ) ภาพวาดฝาผนังอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งจะถูกจัดนิทรรศการให้คนทั่วไปได้เชยชมในทุก ๆ ปี ดูเพิ่มเติม คลิก

รูปปั้นพระอมิตาภะพุทธเจ้า (阿弥陀如来坐像 : Amida Nyorai) หนึ่งในสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของวัดเอคันโดคือพระพุทธรูปของพระอมิตาภะพุทธเจ้า (Amida Buddha) หรือ “อามิดะ เนียวไร” (阿弥陀如来坐像 : Amida Nyorai) รูปปั้นนี้สูง 77 ซม.  เป็นที่รู้จักในชื่อ “มิคาเอริอามิดะ” มีรูปลักษณ์ที่แปลกตา เพราะพระพุทธรูปหันหน้ามามองข้างหลัง ซึ่งแตกต่างจากพระพุทธรูปทั่วไปที่หันหน้าตรง ตั้งแต่สมัยเฮอันตอนปลายถึงต้นสมัยคามาคุระ กล่าวกันว่าพระพุทธรูปของอมิดา เนียวไร ได้รับการประดิษฐานอยู่ในตำแหน่งเดิมมาตลอด เล่ากันว่าหลังจากที่อมิดาได้หันมามองและเรียก “เอคันโด” และนับตั้งแต่นั้นมาศีรษะของพระพุทธรูปองค์นั้น ไม่เคยกลับไปสู่ทิศทางเดิมอีกเลย

นอกจากนี้ ยังมีการจัดนิทรรศการสมบัติล้ำค่าของวัดในช่วงที่มีการประดับไฟใบไม้เปลี่ยนสีอีกด้วย รูปภาพหลักของเอคันโดะ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปยืนของ “อามิดะ เนียวไร” เป็นสิ่งที่ต้องดู และเนื่องจากรูปลักษณ์ที่แปลกตาเมื่อมองย้อนกลับไป จึงถูกเรียกว่า “มิคาเอริ อามิดะ” ตามชื่อ ภาพลักษณ์หลักของการสักการะในอามิดะโดคือ “มิคาเอริ อามิดา เนียวไร” ซึ่งเป็นรูปเจ้าแม่กวนอิมที่มองย้อนกลับไป ซึ่งมีความแตกต่างไปจากเจ้าแม่กวนอิมที่เราพบเห็นกันทั่วไป

”เอคันโด วัดแห่งฤดูใบไม้เปลี่ยนสี”

วัดเอคันโด มีชื่อเสียงในเรื่องใบไม้เปลี่ยนสีตั้งแต่ต้นสมัยเฮอัน และเป็นที่รู้จักอย่างในชื่อ “เอคันโดแห่งใบเมเปิ้ล” ต้นเมเปิลประมาณ 3,000 ต้น ในบริเวณสวน โดยใบไม้จะร่วงเต็มสวนในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และถูกย้อมสีแดงและสีเหลืองผสมกัน แต่งแต้มสีสันไปทั่วบริเวณสวน รวมถึงทิวทัศน์อันโดนเด่นของ “เจดีย์ทาโฮโตะ” (多宝塔 ：Tahoto) ซึ่งตั้งอยู่บนไหล่เขา มุมนั้นสามารถมองเห็นเมืองเกียวโตที่เต็มไปด้วยความงดงามของวิวทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีที่ส่องแสงสะท้อนตกลงบนโขดหินและบนผิวน้ำสะพานโกคุระคุ (極楽橋) ในสระที่เรียกว่า “อิวากากิ โมมิจิ“（岩垣紅葉 ：Iwagaki Momiji） เป็นภาพที่สง่างามและสวยงามกกกกก นอกจากนี้ วัดแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของการประดับไฟหลังพระอาทิตย์ตกหรือ Light Up อีกด้วย ตรงด้านหน้าของสระน้ำโฮโจ (放生池) มีห้องน้ำชาที่เราสามารถผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสี รวมถึง มุมถ่ายรูปมากมายตั้งแต่ทางเข้าศาลเจ้า ห้องโถง สวนอามิดะโดะ บันไดทางลง และสะพานโกคุระคุ 極楽橋 ขอบอกเลยว่าไม่มาเที่ยวญี่ปุ่น ในเมืองเกียวโตไม่ได้แล้ววว

โดยปกติแล้ว นักท่องเที่ยวจะมาทัวร์ญี่ปุ่น ชมใบไม้เปลี่ยนสีกันจำนวนมากในช่วงตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน จนถึงต้นเดือนธันวาคม เพราะวิวทิวทิศน์รอบ ๆ จะถูกย้อมสีแดงสด ทำให้กลายเป็นวิวทิวทัศน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของวัดแห่งนี้

ไฮไลท์

“นิทรรศการสมบัติวัดฤดูใบไม้ร่วงพิเศษ” และ ”นิทรรศการแสดงไฟ Eikando Light-up” จะจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงต้นเดือนธันวาคม ของทุก ๆ ปี เป็นช่วงที่คุ้มค่าแก่การมาทัวร์ญี่ปุ่นมาก ๆ ค่ะทั้งสภาพอากาศและความสวยงาม แน่นอนว่าใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วงเมื่อได้รับแสงอันเจิดจ้าจากดวงอาทิตย์แล้ว ในช่วงกลางวันนั้นสวยงามมาก แต่แสงสว่างหลังพระอาทิตย์ตกดินในฤดูใบไม้ร่วงนั้น ก็สวยงามและน่ามหัศจรรย์ไม่แพ้กัน ซึ่งช่วงเช้าจะจัดจนถึงเวลา 17:00 น. และจะเริ่มจัดช่วงกลางคืนอีกครั้ง ตั้งแต่เวลา 17:30 น. – 21:00 น. (แผนกต้อนรับปิดทำการเวลา 20:30 น.) ในช่วงเวลาดังกล่าว เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน บริเวณต่าง ๆ จะสว่างไสวไปด้วยแสงไฟ ทำให้เกิดบรรยากาศสุดโรแมนติก และเราสามารถเพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงยามค่ำคืนที่แตกต่างจากในเวลากลางวันได้บริเวณ เช่น สระน้ำโฮโจใน (放生池)

เวลาให้บริการ :

เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 9:00-17:00 น.

ช่วงฤดูใบไม้ร่วงมีการจัดแสดงไฟกลางคืน 17.30-21.00 น.

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 600 เยน

               นักเรียน 400 เยน

(ช่วงจัดงาน Eikando Light-up ผู้ใหญ่ 1,000 เยน เด็กนักเรียน 600 เยน)

แนะนำการเดินทาง : 

• จากสถานี JR Kyoto ⇒ ขึ้นรถบัสสาย 5 ⇒ ลงที่ป้าย Nanzenji Eikando-michi จากนั้นเดินต่ออีก 3 นาที

• จากสถานี JR Kyoto ⇒ ขึ้นรถบัสสาย 100 ⇒ ลงที่ป้าย HIgashi-Tennocho จากนั้นเดินต่ออีก 8 นาที

• จากสถานีรถไฟใต้ดินสาย Karasuma Line ⇒ เปลี่ยนที่ Karasuma Oike Station ⇒ลงที่ Keage Station ไปทาง Rokujizo  เดิน 15 นาที

• จากสถานี Keihan Railway “Sanjo” ⇒ ขึ้นรถบัสสาย 5 ⇒ ลงที่ Nanzenji Eikandodo-michi จากนั้นเดิน 3 นาที

ที่ตั้ง : 48 Eikandocho, Sakyo Ward, Kyoto

Google Map :  http://www.eikando.or.jp/

ไปทัวร์ต่างประเทศ กับบริษัทไหนดี? ไปเที่ยวต่างประเทศ ชมใบไม้เปลี่ยนสี กับพี่หมีเอ็กซ์แอล

เราพร้อมมอบความสุข ‘ไซส์ใหญ่’ ไม่เท ไม่ทิ้ง ทัวร์ญี่ปุ่น กับ XL World Tour ดูแพ็กเกจทัวร์สุดคุ้ม เพิ่มเติม >> คลิกเลย

ถ้าชอบบทความของ XL World Tour
ฝากกด Like & Share หรือกดติดตามเพจ Facebook
เพื่ออัพเดทข่าวสาร สถานที่ท่องเที่ยว โปรแกรมทัวร์ราคาดี ๆ กับครอบครัวพี่หมีด้วยกันนะ