🇯🇵 ชิราคาวาโกะ เที่ยวช่วงไหนดี ? หมู่บ้านมรดกโลกที่มีเสน่ห์แตกต่างกันทุกช่วงฤดู พี่หมีบอกเลยว่า ถ้าเพื่อน ๆ กำลังวางแผนมา ทัวร์ญี่ปุ่น แล้วปักหมุดพิกัดว่าจะต้องมาเยือนหมู่บ้านแห่งนี้ ที่นี่สามารถเที่ยวได้ตลอดปี ไม่ว่าจะมาช่วงเดือนไหน หรือฤดูกาลไหนก็งดงาม ซึ่งทั้ง 4 ฤดูก็จะมีบรรยากาศความสวยงามแตกต่างกันไป ประทับใจกันคนละแบบอย่างแน่นอน

🌸 เที่ยวชิราคาวาโกะช่วงฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม – พฤษภาคม)

ต้นไม้ใบหญ้าภายในหมู่บ้าน จะกลับมาเขียวชอุ่มพร้อมกันอีกครั้ง ในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ อากาศก็จะเย็นสบายกำลังดี ไม่หนาวหรือร้อนจนเกินไป อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 13 – 25 องศา ไฮไลท์เด็ดแนะนำให้มาช่วงกลาง – ปลายเดือนเมษายน เพราะจะเป็นช่วงที่ดอกซากุระบานสะพรั่งทั่วทั้งหมู่บ้าน ถ่ายรูปออกมาแล้วได้ฟีลสวยหวาน โรแมนติกในทุกมุม

🌳 เที่ยวชิราคาวาโกะช่วงฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมิถุนายน – สิงหาคม)

ถ้าเพื่อน ๆ มาเที่ยวในช่วงนี้ ก็จะได้เห็นบรรยากาศหมู่บ้าน ที่เต็มไปด้วยทุ่งนาเขียวขจี ต้นไม้เขียวชอุ่ม ท้องฟ้าแจ่มใส เพราะเป็นช่วงที่ชาวบ้านเริ่มทำการเพาะปลูก สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของหมู่บ้านได้อย่างเต็มตา เหมาะกับการเดินเที่ยวกลางแจ้งในช่วงกลางวัน แล้วอากาศก็ไม่ร้อนจัด แดดไม่แรงไปด้วย เพราะหมู่บ้านตั้งอยู่กลางเขา มีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 27 – 33 องศา ช่วงต้นเดือนมิถุนายนอาจจะมีฝนตกบ้าง แต่โดยรวมแล้วอากาศดี สดชื่น กำลังสบาย ๆ เลย

🍂 เที่ยวชิราคาวาโกะช่วงฤดูใบไม้ร่วง (เดือนกันยายน – พฤศจิกายน)

ช่วงฤดูนี้อากาศในหมู่บ้านจะเริ่มกลับมาเย็นขึ้น อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 10 – 18 องศา เตรียมเสื้อกันหนาวมากันให้พร้อม แล้วมาชมใบไม้ที่กำลังเปลี่ยนสี จากสีเขียวกลายเป็นสีส้ม แดง น้ำตาล เหลือง สลับกันไป ทำให้หมู่บ้านสดใสไปด้วยเฉดสีจากธรรมชาติ ดูสวยสดงดงามไปอีกแบบ ช่วงเวลาแนะนำสำหรับการมาชมใบไม้เปลี่ยนสีของที่นี่คือช่วง ปลายเดือนตุลาคม – กลางเดือนพฤศจิกายน

❄️ เที่ยวชิราคาวาโกะช่วงฤดูหนาว (เดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์)

พี่หมีแนะนำ เป็นช่วงไฮไลท์ของการเที่ยวหมู่บ้านนี้เลย เพราะทั่วทั้งหมู่บ้านและภูเขาโดยรอบ จะปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน ดูสวยเหมือนอยู่ในยุโรป อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ -10 ถึง 0 องศา และยังมี เทศกาลแสดงไฟหมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawago Light Up) ที่แต่ละบ้านจะตกแต่งไฟ แล้วเปิดในยามค่ำคืน สร้างบรรยากาศที่สวยงามไปอีกแบบ (ต้องจองก่อนมาเข้าชมด้วยนะ) เทศกาลแสดงไฟเริ่มตั้งแต่กลางเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์

ชิราคาวะโกะ หมู่บ้านที่ได้รับเลือกจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1995 กับบ้านในแบบกัสโชสึคุริ ซึ่งเป็นแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ชื่อนี้ได้มาจากคำว่า กัสโช ซึ่งแปลว่า พนมมือ ตามรูปทรงของหลังคาบ้าน เป็นภูมิปัญญาการสร้างบ้านของคนในสมัยก่อน เพื่อให้หิมะและน้ำฝนที่ตกลงมาไหลลงสู่พื้นด้านล่าง ส่วนด้านหน้าของตัวบ้านจะเจาะเป็นช่องหน้าต่าง เพื่อให้แสงสว่างส่องเข้ามาและช่วยระบายอากาศ การเดินเที่ยวชมอาคารบ้านเรือนต่าง ๆ ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้ย้อนยุคกลับไปสู่ประเทศญี่ปุ่นอดีตได้เลย

ตัวบ้านมีความยาวประมาณ 18 เมตร และมีความกว้าง 10 เมตร ซึ่งโครงสร้างของบ้านสร้างขึ้นโดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว แต่ยังคงความแข็งแรงสามารถรองรับหิมะที่ตกมาอย่างหนักในช่วงฤดูหนาวได้ดี

มอบความสุข ‘ไซส์ใหญ่’ ไม่เท ไม่ทิ้ง ไปเที่ยวต่างประเทศ ทัวร์ญี่ปุ่น กับพี่หมีเอ็กซ์แอล >> คลิกเลย

🚏 การเดินทาง : (จากโอซาก้าหรือนาโกย่า) สามารถนั่งรถไฟมาลงที่เมืองคานาซาวา แล้วต่อรถบัสประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที ก็จะถึงหมู่บ้าน l (จากนาโกย่า) นั่งรถไฟเข้าเมืองทาคายาม่า แล้วต่อรถบัส Takayama Nohi Bus Center อีกประมาณ 50 นาที

แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/5Yop7jTJPSMr49VX8

 เวลาให้บริการ : หมู่บ้านเปิดให้เข้าชมทุกวัน 8:40 – 17:00 น. (ไฟจัดแสดงเปิดตั้งแต่เวลา 17:30 – 19:30 น.) *เข้าชมได้เฉพาะคนที่จองล่วงหน้าเท่านั้น

ค่าบริการ : เข้าชมหมู่บ้านฟรี ส่วนเทศกาลประดับไฟ ต้องจองล่วงหน้ามาก่อนเท่านั้น

ถ้าชอบบทความของ XL World Tour
ฝากกด Like & Share หรือกดติดตามเพจ Facebook
เพื่ออัพเดทข่าวสาร สถานที่ท่องเที่ยว โปรแกรมทัวร์ราคาดี ๆ กับครอบครัวพี่หมีด้วยกันนะ